มีคนบอกว่า ถ.พุทธบูชาคือ ถ.สุขุมวิทของฝั่งธนบุรี ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคำกล่าวของใคร แต่ถ้าดูจากลักษณะถนนหนทางแถวพุทธบูชาแล้ว ก็คล้ายๆแถวสุขุมวิทอยู่บ้าง ต่างกันตรงที่ไม่มีห้างใหญ่ๆ โรงแรมหรูๆ ครับ มีแต่บ้านหลังโตๆ บรรยากาศแบบสวนไม้ธรรมชาติ ให้เห็นเป็นช่วงๆ
เพื่อนสวนฯคนหนึ่งยอมลงทุนย้ายบ้านมาอยู่แถวนี้เพื่อให้ลูกได้มาเข้าเรียนที่โรงเรียนรุ่งอรุณ ได้ยินมาว่าค่าเรียนต่อปีสูงเอาการทีเดียว คำกล่าวที่ว่ามีลูกหนึ่งคนจนไปสิบปีก็คงจะจริงละครับ … จริงๆแล้วแต่ก่อน แถวนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แต่เมื่อความเจริญเข้ามาพร้อมกับผู้คนที่มากขึ้นๆ ก็ทำให้มีร้านอาหารอร่อยๆตามมาด้วยอย่างไม่น่าแปลกใจ
ว่าแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า ร้านนี้มีชื่อว่า Chef Boyd ครับ อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนรุ่งอรุณนี้เอง เป็นร้านแบบเปิด โปร่ง โล่ง โต๊ะที่นั่งสีขาว ให้ความรู้สึกสบายๆ ไม่เป็นทางการมาก แต่เสริฟอาหารแบบโรงแรมมีระดับ ทั้งแบบไทย ญี่ปุ่น และหลักๆคือ แบบอิตาเลี่ยน และ ฝรั่งเศส ครับ เมนูที่น่าลองก็มีหลายอย่างมากๆ ทั้ง ผัดไทยกุ้งสดน้ำซอสสูตรพิเศษ หมูดำญี่ปุ่นคุโรบูตะ เนื้อวากิว ปลาจอห์นโดรี่ ปลาค็อทกับพาสต้าเส้นดำ สปาเก็ตตี้ เพนเน่ เฟตตูชินี่ มักกะโรนี สเต็กเบอร์เกอร์ เป็ดตุ๋นซอสส้ม และอีกมากครับ เห็นแล้วก็อยากจะลองไปซะทุกอย่าง เมนูที่ผมลองดูแล้วคือ ผัดไทยกุ้งสดสูตรพิเศษและเพนเน่คาโบนาร่า ก็ต้องบอกว่ามาตรฐานแบบโรงแรมหรูแต่ราคากันเองแบบไม่ต้องมีค่าสถานที่ครับ
ดูประวัติการทำงานของเชฟบอยแล้วก็ไม่แปลกใจครับ ทั้งจากโรงแรม Karlsluhe ในเยอรมนี Mamaison Hilton, Indigo French Restaurant, Nailert Park Swissotel และที่สำคัญคือเชฟบอยลงมือทำอาหารด้วยตัวเองทุกจานครับ
เห็นการทำงานของเชฟบอย ทำอาหารไปยิ้มไป ในครัวแบบเปิดโล่ง ให้เห็นกันจะๆแล้ว ผมรู้สึกประทับใจในความสบายๆ เป็นกันเองแบบนี้เป็นอย่างมากถึงมากที่สุดครับ เป็นความสบายของคนอยากกินอาหารอร่อยๆดีๆ แบบภัตตาคารในโรงแรมระดับห้าดาว แต่เราใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะ เข้าไปทานได้ครับ ไม่ต้องลงทุนใส่เสื้อเชิ้ต ขายาว รองเท้าหนัง ให้เมื่อยเท้า
ผักโขมอบชีส อีกหนึ่งเมนูที่ลองแล้ว .. อร่อยครับ (ปัจจุบันไม่มีเมนูนี้แล้ว)
แฮมสเต็กกับแอปเปิ้ลอบ ซอสบาร์บีคิว เสิร์ฟพร้อมมันบด
สเต็กไก่พริกไทยดำ
สลัดไข่
อิ่มจากจานหลักแล้วผมก็ตบท้ายด้วยขนมหวานเพื่อจบมื้ออาหารให้ครบสูตร ถ้วยแรกที่เห็นคือ Creme Brulee แบบฝรั่งเศสครับ มองดูทีแรกนึกว่าเหมือนคัสตาดธรรมดาๆทั่วไป แต่พอได้ตักชิมแล้วจะพบว่า เนื้อคัสตาดครีมและรสสัมผัสมันจะอ่อนนุ่มละมุนลิ้นกว่ากันมาก ด้านบนของขนมเป็นชั้นน้ำตาลไหม้ให้ความหวานหอม กรุบกรอบ เนื้อครีมคัสตาดด้านล่างหวานกำลังดี รสมันหอมติดลิ้น ลงตัวทีเดียวครับ
Creme Brulee แบบฝรั่งเศส
ส่วนถ้วยต่อมาอันนี้คือ Panna Cotta เป็นขนมอิตาเลี่ยนทำจากครีมเปรี้ยว ราดด้วยซอสและราสเบอรรี่สด รสชาติออกเปรี้ยวตัดหวานจัดจ้านทีเดียวครับ
Panna Cotta แบบอิตาเลี่ยน
หมายเหตุ: ปัจจุบันร้าน Chef Boyd ได้ปิดกิจการไปแล้ว