จากเดิมที่วางแผนกันไว้ว่าจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่นิวซีแลนด์ ทว่าหลังจากเกิดสึนามิในเมืองไทยเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ผมและภรรยาตัดสินใจกันว่าเราจะเลือกไปฮันนีมูนที่กระบี่แทน เพื่ออย่างน้อยก็เป็นการช่วยเหลือ การท่องเที่ยวในบ้านเราเอง ดีกว่าเอาเงินไปให้ต่างชาติ ใจหนึ่งก็หวั่นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นอีก แต่สุดท้ายคิดว่า “หากอะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด” คงไปห้ามหรือคิดว่ามันจะไม่เกิดก็คงไม่ใช่
ว่าแล้วผมและภรรยาก็ไปฮันนีมูนแบบสุดหรูกันที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2549 ผมมองหารีสอร์ตบนเกาะผ่านเว็บไซต์อยู่หลายแห่ง และมาสะดุดอยู่ที่ พิมาลัยรีสอร์ตแอนด์สปา หลักๆที่ชอบคือบรรยากาศ การตกแต่งของรีสอร์ต ซึ่งดูเป็นแบบไทยๆ และอยู่ในทำเลที่ตั้งอันสงบเงียบ มีชายหาดส่วนตัว .. แน่นอนว่าการไปฮันนีมูน คงไม่ได้ต้องการไปท่องเที่ยวอะไรกันมากมายนัก ผมจึงทำการจองที่พักสุดหรูแห่งนี้ไป 4 วัน 3 คืน พร้อมแพคเกจอาหารเย็นครบทุกวัน และ อโรม่าสปา 1 ชั่วโมง สำหรับ 2 ท่าน ด้วยสนนราคาที่จัดว่าสูงพอสมควร แต่ถึงราคาจะสูงอย่างไรก็ยังถูกกว่าการบินไปนิวซีแลนด์เยอะครับ และที่สำคัญทางรีสอร์ตให้ส่วนลดพิเศษมากพอสมควร เพื่อกระตุ้นให้คนกลับไปเที่ยวหลังเกิดเหตุสึนามิ ซึ่งก็ถือว่าได้พึ่งพาอาศัยกันดีครับ … นี้ละน้ำใจคนไทย :)
ห้องที่ผมจองไปเป็นห้องพักแบบ Pool Villa One Bedroom มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และห้องพักอยู่ติดชายหาดครับ เมื่อได้ที่พักก็จองตั๋วเครื่องบินของการบินไทยไปลงที่กระบี่ ทางรีสอร์ตจะมีบริการรับส่งจากสนามบิน ไปถึงโรงแรมบนเกาะลันตาให้ฟรีครับ ซึ่งนับว่าสะดวกสบายทีเดียวครับ รถตู้มารับเราไปยังท่าเรือส่วนบุคคลของทางโรงแรม เราลงเรือยอร์ชข้ามฝั่งไปยังเกาะ ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ก็ถึงครับ ที่นี้เราได้พบครอบครัวชาวไทยที่มาพักผ่อนอยู่บ้าง แต่โดยมากก็จะเป็นฝรั่งเสียส่วนใหญ่
บริเวณท่าเรือของพิมาลัยรีสอร์ต
สิ่งที่ผมประทับใจอย่างแรกเลยตั้งแต่มาถึงพิมาลับรีสอร์ต คือ เนื่องด้วยห้องพักไม่เต็ม ทางรีสอร์ตจึงเลื่อนระดับห้องพักของผม จาก One Bedroom ไปเป็น Two Bedroom ครับ เพราะจะได้เห็นทะเลในทำเลที่ดีกว่า และแน่นอนครับว่าสระน้ำส่วนตัวก็จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมด้วย
บรรยากาศห้องพักบริเวณห้องนั่งเล่นภายนอก และสระว่ายน้ำส่วนตัว
ห้องพักที่นี้ถือว่าใหญ่มากครับ มีทั้งส่วนห้องนอน ห้องนั่งเล่นภายใน ภายนอก ระเบียงริมทะเล ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำ ทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ (ถ้าไม่กลัวโป๊) ห้องครัว ด้านนอกมีตั่งขนาดใหญ่ให้นอนเอกเขนกรับลมทะเล แถมมีทีวี ดีวีดี ไมโครเวฟให้อีกครบชุด ซึ่งบางอย่างก็ไม่ได้ใช้หรอกครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้านยังไงยังงั้นเลยทีเดียว … ผมและภรรยาเข้าพักผ่อนเอาแรงหลังจากการเดินทางพอให้หายเหนื่อย แล้วก็ออกไปสำรวจทะเลชายหาดในบริเวณใกล้ๆ จากห้องพักไม่กี่ก้าวก็ถึงชายหาดอันสงบและสะอาด ถึงจุดนี้ ผมทราบดีว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว ที่เลือกมายังรีสอร์ตแห่งนี้
บรรยากาศภายในห้องอาหาร
ตกเย็นเราก็มานั่งทานอาหารกันที่ห้องอาหารซึ่งมีรายการให้เลือกพอสมควรครับ หนึ่งในนั้นคือปลาทรายทอดซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นครับ ที่นั่งมีให้เลือกทั้งแบบ อินดอร์และเอาท์ดอร์ … เราเลือกไปสัมผัสกลิ่นไอทะเลแบบเอาต์ดอร์ครับ ดีตรงที่ไม่มียุงไปร่วมโต๊ะอาหารด้วยครับ นับว่าลงตัว เพอร์เฟคทุกสิ่งอย่างสำหรับวันแรก
บรรยากาศริมทะเล ที่ผมและภรรยาเลือกมานั่งสั่งเครื่องดื่มและฟังเพลงบรรเลงสดจากนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ .. โรแมนติกมากๆครับ ขอบอก
บรรยากาศส่วนตัว ในห้องพักส่วนตัว ลงตัวแบบไม่ต้องออกไปไหน :)
บรรยากาศภายในห้องนอน ห้องที่ผมไปพักจะมีอ่างอาบน้ำแบบเอาท์ดอร์ให้อีกต่างหาก ด้วยความหรูขนาดนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆครับผม
สถาปัตยกรรมของอาคารในบริเวณรีสอร์ต
แพคเกจที่ผมมาในครั้งนี้ ทางรีสอร์ตเขาแถมอโรม่าสปามาให้สำหรับ 2 ท่านด้วยครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สบายตัว สบายใจ มากกกก
ภาพถ่ายจากเว็บไซต์ www.pimalai.com ที่พี่เจ้าของบอกมาว่า ถ่ายเองกับมือทุกภาพ