วันสุดท้ายของการเดินทาง ไม่ได้ทำให้ความสนุก ความตื่นเต้นหดหายลงไปเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมันเป็นวันที่ผมได้พบกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และไม่คิดว่าที่นี่จะเป็นเมืองไทย อายุผมก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว อดคิดไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่หายไป ทำไมเราจึงไม่มีโอกาสได้มาสัมผัสธรรมชาติใกล้ตัวแต่ดันกระเสือกกระสนไปเที่ยวที่ไกลๆต่างบ้านต่างเมืองเสียนาน ผมออกเดินทางไปยังเป้าหมายสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในใจไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายจากชื่อที่ได้ยิน “บึงบัว” ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นบึงขนาดใหญ่ภายในอุทยานแห่งชาติที่มีเรือพาย มีบัวสวยๆให้ดู ภาพที่ผมคิดเอาไว้คิดว่าคงไม่ต่างจากบึงทั่วๆไปที่เคยไปเยือน
…. ผมเช็คเอาท์จากรีสอร์ทแล้วขับรถไปตามทางถนน 1020 มุ่งสู่ปราณบุรี เข้าเพชรเกษมลงไปทางใต้แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยก กม. 275.6 ให้สังเกต ป้ายซอยโรงเจ มุ่งตรงไปยังโรงเจ แล้วตรงเข้าไปยังศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว ขับไปตามทางเรื่อยๆ จากที่พักมาระยะทางราว 40-50 กม.ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครับ ระหว่างทางเจอวัวติดอย่างที่เห็นในภาพ ก็แปลกที่อมยิ้มได้และไม่รู้สึกหงุดหงิดเหมือนรถติดใน กทม. แต่อย่างใดครับ :-)
เมื่อไปถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯเจ้าหน้าที่ขอตรวจดูบัตรผ่าน ผมจึงหยิบบัตรผ่านของวันก่อนหน้าที่เข้าเขตอุทยานฯมาให้ดู พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า “บัตรผ่านได้เพียงวันต่อวันเท่านั้นครับแต่ไม่เป็นไรน้องอุตสาห์มาแล้ว ผ่านได้เลยครับถือว่ายังเป็นช่วงทริปเดียวกัน” นี้ละครับความมีน้ำใจไมตรีที่หาที่อื่นไม่ได้นอกจากบ้านเรา เมื่อผ่านด่านมาก็หาที่จอดรถในบริเวณที่ทำการ เพื่อเดินต่อไปตามเส้นทางธรรมชาติที่ทางอุทยานฯทำไว้ให้พร้อมข้อมูลอย่างดี
จากข้อมูลทุ่งสามร้อยยอดเป็นทุ่งน้ำจืดกว้างใหญ่ น้ำขังตลอดปี มีพื้นที่ประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร มีเส้นทางศึกษาพันธุ์ไม้น้ำทำเป็นทางเดินบนสะพานไม้ยกระดับ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและศึกษาธรรมชาติของพืชไม้น้ำและนกนานาชนิดที่มาอาศัยในบริเวณทุ่งสามร้อยยอดนี้ ปกติสามารถนั่งเรือไปชมธรรมชาติในบึงได้อย่างใกล้ชิด แต่น่าเสียดายในช่วงที่ผมไปนั้นลมแรงมากจึงไม่เหมาะแก่การนั่งเรือ แต่ก็สามารถเดินชมธรรมชาติไปตามสะพานไม้ที่ทอดยาวเป็นกิโลๆได้ บรรยากาศดีมากๆครับ เพราะความงามที่เห็นตรงหน้านั่นเกินจะบรรยาย
บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีความหลากหลาย ของชนิดนกสูงมากถึง 316 ชนิด ในจำนวนนี้มีนก อย่างน้อย 157 ชนิด หรือประมาณครึ่งหนึ่ง เป็นนกที่อาศัยอยู่เฉพาะในพื้นที่ชุ่มน้ำเท่านั้น เฉพาะในทุ่งสามร้อยยอด สำรวจพบนก 118 ชนิด ทั้งนกขนาดใหญ่ที่เป็นนกประจำถิ่น และนกน้ำอพยพ ได้แก่ นกเป็ดน้ำ นกกินเนื้อ นกอินทรีขนาดใหญ่ ที่อพยพมาในช่วงฤดูหนาว เหยี่ยวทุ่ง นกชายทะเล นกขนาดเล็กอีกหลายชนิด นกเหล่านี้หลายชนิดในปัจจุบัน เป็นนกที่พบเห็นได้ยากในที่อื่นๆ ของประเทศไทย นกชนิดเด่นในทุ่งสามร้อยยอด เช่น นกกระสานวล นกกระสาแดง เป็ดแดง เป็ดคับแค นกอินทรีปีกลาย นกอินทรีหัวไหล่ขาว นกกระแตหัวเทา นกพงนาแมนจูเรีย นกกระจาบอกลาย นกกระติ๊ดสีอิฐ เหยี่ยวทุ่ง เหยี่ยวด่างดำขาว เป็ดลาย และนกอีลุ้ม เป็นต้น
พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงที่ดีที่สุดในการมาชมนกคือราวเดือน พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม และช่วงที่ดีที่สุดในการชมดอกบัวคือเดือนมีนาคม ถึง เมษายนครับ .. แต่ช่วงที่ผมไปคือเดือนมกราคม ไม่เห็นทั้งนกและดอกบัวครับ อาจเป็นเพราะอากาศหนาวเย็นมากเกินไป แต่อย่างน้อยผมก็ได้เห็น Unseen อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยละครับ
ภาพนกนานาชนิดที่จะได้เห็นในช่วง พ.ย. – ธ.ค.
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด หากใครสนใจจะออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ตัวแบบผมลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับหรือติดต่อ
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โทร 032-821-568
หรือที่ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร 032-513-885,032-513-871,032-513854
E-mail: tatprachuap@tat.or.th Call Center 1672