วันที่สามของการเดินทาง ผมวางแผนตลุยขับรถไปยีงจุดที่ไกลที่สุดก่อนคือ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ แลัวค่อยขับรถย้อนกลับมาเที่ยว อ่าวมะนาว กองบิน 53 เขาช่องกระจก และ ทิ้งไฮไลท์สุดท้ายยามเย็นไว้ที่เขาแดง โปรแกรมอาจจะดูแน่นไปสักนิดแต่ก็ไม่เหนื่อยมากครับ กลัวเพื่อนๆจะนึกภาพการเดินทางไม่ออกวันนี้เลยเอาแผนที่ท่องเที่ยวมาให้ดูพอเป็นไอเดีย ถ้าใครมีลูกหลานตัวเล็กๆคิดว่าน่าจะชอบ หว้ากอ ครับเพราะที่นั้นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและหอดูดาวของรัชกาลที่ ๔ ให้ชมกัน
จากที่พักของผมแถวๆหาดสามร้อยยอดขับไปถึง หว้ากอ ระยะทางราว 80 กม. ใช้เวลาไม่มากครับ ขับไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านกุยบุรี บ่อนอก อ.เมืองประจวบฯ จากสี่แยกประจวบฯ ลงไปทางใต้ อีกประมาณ 16 กิโลเมตร จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 335 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านหว้าโทน ขับตามทางเข้ามาอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร และข้ามทางรถไฟเข้าสู่อุทยานฯ หรือ จากสี่แยกประจวบฯ หลักกิโลเมตรที่ 323 เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองประจวบฯ ขับรถตามถนนสละชีพ ผ่านกองบิน 53 (อ่าวมะนาว) จนถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ (แยกไฟแดงคลองวาฬ) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านคลองวาฬ ขับรถตามทางจนถึงอุทยานฯ (เส้นทางจากกองบิน 53 – อุทยานฯ ประมาณ 10 กม.)
ผมใช้เวลาครึ่งวันเช้าในอุทยานวิทยาศาสตร์ จากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันง่ายๆใน อ.เมือง ก่อนขับรถผ่าน อ่าวมะนาว ไปเที่ยวกองบิน 53 และวัดเขาช่องกระจก
ที่เขาช่องกระจกมีลิงค่อนข้างเยอะและดุพอสมควร แต่ก็จะมีแม่ค้าที่ขายของตามบันไดทางขึ้นเขาคอยช่วยดูแลไม่ให้ลิงมารบกวนเรามากนักครับ แต่อย่างไรก็ควรเก็บข้าวของใส่กระเป๋าให้ดีนะครับเพื่อความปลอดภัย
บนยอดเขาจะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามจุดหนึ่งครับ มองลงมาเห็นอ่าวประจวบ (ในภาพจะเห็นมี 2 อ่าว) เป็นโค้งสวยงามมากๆครับ ใช้เวลาบนนี้นานหน่อยนะครับ อาจจะได้ภาพสวยๆกลับมาเยอะ เนื่องจากว่าผมยังต้องเดินทางต่อไปยังเขาแดงอีกจึงเก็บภาพมาได้ไม่มากนัก
ภาพปลาและสัตว์น้ำนานาๆชนิดที่อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ
ลานบินที่กองบิน-53 ผมแอบเอารถขับขึ้นไปบนลานดูครับ เพราะไม่เห็นมีป้ายห้าม (ไม่ควรทำตามนะครับ)
หากอยู่ใกล้ ช่วงเวลาเช้าตรู่น่าจะได้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดจุดหนึ่งเลยครับ
ผมออกเดินทางกลับมาถึงอุทยานสามร้อยยอดผ่านมาถึงกุยบุรีก็เลี้ยวรถไปยังเขาแดงเลย เวลา 16.30-17.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่า ดีที่สุดในการล่องเรือชมคลองเขาแดง เพราะว่าเป็นช่วงแดดร่ม ลมตก อากาศเย็นสบายเลยครับ จะว่าไปก็หนาวนิดนึงครับเพราะลมแรงมากๆ บรรยากาศโดยรวมผมว่าน้องๆกุ้ยหลินเลยก็ว่าได้ครับ คนรู้ใจที่ไปด้วยกันกับผมเธอเคยไปกุ้ยหลินมาแล้วก็บอกว่าพอได้ครับ ภาพแรกที่เห็นด้านบนเป็นหินรูปจรเข้ขนาดใหญ่ น่าจะเป็นจุดไฮไลท์ที่เด่นที่สุดของการมาล่องเรือที่นี้ครับ
โดยรวมแล้วเป็นการเดินทางที่เหนื่อยตอนต้นแต่ ชิล ชิล ในตอนจบครับ ระยะเวลาในการล่องเรือก็ไม่นานมากจนเกินไปประมาณ 45 นาที ค่าเช่าเหมาเรือ นั่งได้ 4-6 คนเพียง 400 บาทครับ (สมัยที่ผมไปจำได้ว่า 350 บาท)
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเอาภาพวิดิโอที่ถ่ายไว้มาให้ชมพอได้บรรยากาศการล่องเรือครับ