ความทรงจำอันฉ่ำหวานที่นานจิงลู่ …

Posted by

การเดินทางโดยลำพัง มันไม่สนุกหรอกยิ่งเป็นการเดินทางเพื่อไปทำงานแล้วละก็ อย่าได้ฝันที่จะได้เฮฮาปาร์ตี้กับใคร เช้าตื่นขึ้นมากินข้าว ไปโรงงาน เปิดโต๊ะเจรจา กินข้าวกลางวัน นัดอีกโรงงาน ดูสายการผลิต กินข้าวเย็น โทรนัดโรงงานที่จะพบในวันพรุ่งนี้ จบวันก็เหนื่อยจนไม่อยากจะลุกออกจากเตียง

 

แต่วันนั้น เหมือนเป็นลิขิตจากฟ้า ขณะที่ผมเดินหาร้านอาหารอยู่บนถนนนานจิงลู่ แห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่เต็มไปด้วยผู้คนเป็นล้านๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงใสๆทักทายมา “先生 什么时间了” ด้วยความที่ภาษาจีนยังไม่แข็งแรงนักผมจึงตอบกลับไปว่า “It’s about 7.30” เธอตอบกลับมาว่า “Oh , you are not Chinese”

 

…google translate

 

“ขอโทษคะ คุณดูเหมือนคนจีนมากๆ”

“อ๋อครับ ความจริงผมก็คนจีนโพ้นทะเลละครับ คุณพ่อคุณแม่ผมเป็นคนจีน แต่ผมเกิดที่เมืองไทย”

“มิน่าละ มาคนเดียวเหรอคะ”

“ครับ … ทำไมภาษาอังกฤษคุณดีมากเลยนะ คุณเป็นนักศึกษาเหรอ”

“ใช่คะ ฉันเรียนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัย สมัยนี้มีคนต่างชาติมาลงทุนที่จีนมาก ใครรู้ภาษาอังกฤษก็ได้เปรียบคะ”

“อืมม แต่สำเนียงคุณดีมากเลยนะ ไม่เหมือนคนจีนทั่วไปที่ผมติดต่องานด้วยเลย”

เธอยิ้มหวานให้

“ขอบคุณคะ อืมม ฉันนัดเพื่อนไว้แต่คงอีกนานกว่าจะมาถึง เราไปนั่งทานกาแฟกันดีไม๊คะ ถ้าไม่รังเกียจ”

“ยินดีเลยครับ ผมเองก็ไม่มีธุระอะไร”

 

เราเดินไปร้านกาแฟแห่งหนึ่งไม่ไกลจากจุดที่พบ เมนูเครื่องดื่มมีแต่ภาษาจีน ผมจึงให้เธอช่วยสั่งกาแฟให้ เธอสั่งชาดอกไม้สำหรับตัวเธอและกาแฟร้อนให้ผมแก้วหนึ่ง

 

… บทสนทนาดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน เธอชวนผมคุยเรื่องที่เมืองไทย เรื่องที่เมืองจีน ไปจนถึงเรื่องปรัชญา ที่ผมเองก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ผมได้แต่พยักหน้าทำเป็นว่าเข้าใจ เวลาดูเหมือนผ่านไปเร็วจริงๆ

 

… สักครู่โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

 

“รู้สึกว่าเพื่อนของฉันจะมาไม่ได้แล้วละคะ อืมม คุณจะรังเกียจไม๊ถ้าเราจะไปเต้นรำกันนะคะ”

“อืมม ไม่รู้สิครับ พรุ่งนี้ผมต้องทำงานแต่เช้า”

“เหรอคะ เสียดายจริงๆ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรคะ คุณจะยังอยู่เซี้ยงไฮ้อีกหลายวันไม๊คะ”

“ครับ คงอีกสองสามวันละครับ”

“งั้นฉันให้เบอร์โทรศัพท์คุณไว้นะคะ เผื่อคุณมีเวลา เราไปเที่ยวกัน”

“ขอบคุณมากเลยครับ คุณช่างมีน้ำใจจริงๆ”

 

จากนั้นเธอจึงเรียกพนักงานให้มาเก็บเงิน ไม่นานนักพนักงานก็นำบิลมาวางตรงหน้าผม… เห็นตัวเลข 250 RMB มันก็เป็นเงินประมาณ 1250 บาทเองละครับ ผมแปลกใจ ค่ากาแฟธรรมดาๆแบบเนสกาแฟแก้วนึงกับชาดอกไม้กานึง ทำไมราคามันถึงแพงขนาดนี้… แต่ด้วยมาดนักธุรกิจอย่างผม บวกกับ ที่นี่เป็นต่างบ้านต่างเมือง ผมจึงควักกระเป๋าเงินมาจ่ายโดยไม่ลังเล

 

เราเดินออกมาจากร้านพร้อมกับกล่าวคำอำลากันพอเป็นธรรมเนียม

 

…. ผมได้แต่คิดในใจว่า “ค่ำคืนนี้ช่างเต็มไปด้วยปรัชญาจริงๆ”

Leave a Reply